ดูไบ เมืองทันสมัยแห่งตะวันออกกลางที่ผสานความหรูหรา วัฒนธรรม และเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการวันหยุดพักผ่อนที่ครบเครื่อง ไม่ว่าคุณจะหลงใหลในการช้อปปิ้ง การพักผ่อนอย่างสงบ หรือการผจญภัยที่ตื่นเต้น ดูไบสามารถตอบโจทย์ได้ในที่เดียว
ช้อปปิ้ง: สวรรค์ของนักช้อปจากทั่วโลก

1. The Dubai Mall
ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีแบรนด์หรูอย่าง Chanel, Dior, Louis Vuitton รวมถึงโซนแฟชั่นท้องถิ่น ร้านเครื่องสำอาง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ครบครัน นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอย่าง Dubai Aquarium, ลานสเก็ตน้ำแข็ง และน้ำพุเต้นระบำ
2. Mall of the Emirates
นอกจากแบรนด์ดัง ยังมี Ski Dubai ลานสกีในร่มที่เป็นไฮไลต์สำหรับครอบครัว สามารถเล่นหิมะกลางทะเลทรายได้ตลอดทั้งปี
3. Souk Madinat Jumeirah และ Gold Souk
ตลาดพื้นเมืองที่ให้ประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบอาหรับแท้ ๆ เหมาะสำหรับการซื้อของที่ระลึก พรม เครื่องเทศ และทองคำในราคาที่ต่อรองได้
พักผ่อน: สงบ หรูหรา และฟื้นฟูร่างกาย
1. รีสอร์ตระดับโลกริมชายหาด
เช่น One&Only Royal Mirage, Jumeirah Al Naseem และ Atlantis The Palm มีทั้งชายหาดส่วนตัว สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ และวิวทะเลอ่าวอาหรับที่งดงาม
2. สปาหรูและเวลเนสเซ็นเตอร์
ที่พักหลายแห่งมีสปาระดับพรีเมียม เช่น Talise Spa หรือ The Spa at Palazzo Versace ให้บริการนวดผ่อนคลาย ทรีตเมนต์ดูแลผิว และโยคะริมทะเล
3. คลับชายหาดและร้านอาหารบรรยากาศดี
เช่น Drift Beach Club และ Cove Beach ที่สามารถนอนอาบแดด ฟังเพลงเบา ๆ และรับประทานอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนในบรรยากาศผ่อนคลาย
ผจญภัย: ประสบการณ์ที่เติมสีสันให้วันหยุด
1. ทะเลทรายซาฟารี
ขับรถ 4×4 ลัดเลาะเนินทราย ขี่อูฐ ชมพระอาทิตย์ตก และรับประทานอาหารเย็นแบบบาร์บีคิวใต้แสงดาว พร้อมการแสดงพื้นเมือง เช่น ระบำตานูระอา
2. Skydive Dubai
กระโดดร่มจากเครื่องบินเหนือ Palm Jumeirah เพื่อชมวิวเส้นขอบฟ้าอันงดงามของเมืองจากมุมสูง เหมาะสำหรับนักเดินทางสายแอดเวนเจอร์
3. ล่องเรือยอชต์ส่วนตัวใน Dubai Marina
พาครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนล่องเรือหรู ชมตึกสูงระฟ้าและเส้นขอบฟ้ายามเย็นของเมือง พร้อมบริการอาหารและดนตรีสดบนเรือ
วางแผนวันหยุดที่หลากหลายได้ในเมืองเดียว
- เช้า: เริ่มต้นวันด้วยการนวดผ่อนคลายที่สปา
- บ่าย: เดินเล่นและช้อปปิ้งในห้างระดับโลก
- เย็น: ล่องเรือหรือขับรถเข้าทะเลทรายเพื่อชมพระอาทิตย์ตก
- กลางคืน: ดินเนอร์หรูบนตึก Burj Khalifa หรือริมชายหาด
เคล็ดลับเพื่อวันหยุดที่สมบูรณ์แบบในดูไบ
การเดินทางไปดูไบสามารถสร้างความประทับใจได้มากขึ้น หากมีการวางแผนอย่างเหมาะสม ทั้งในด้านเวลา งบประมาณ และกิจกรรมที่เลือก เราจึงขอแนะนำเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณได้ดื่มด่ำกับวันหยุดอย่างเต็มที่
1. เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม
- ฤดูที่ดีที่สุด สำหรับการท่องเที่ยวในดูไบคือช่วง พฤศจิกายนถึงมีนาคม อากาศจะเย็นสบาย เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
- ช่วงหน้าร้อน (พฤษภาคม–กันยายน) แม้อุณหภูมิจะสูง แต่อาคารและศูนย์การค้าทุกแห่งติดแอร์เต็มที่ เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นกิจกรรมในร่มและชอบความสงบ
2. จัดลำดับกิจกรรมตามทำเล
- ดูไบเป็นเมืองที่มีพื้นที่กว้าง แนะนำให้จัดแผนการเที่ยวโดยแบ่งโซน เช่น
- วันแรก: เดินทางและพักผ่อนที่โรงแรม
- วันที่สอง: เที่ยวแถบ Downtown Dubai (Dubai Mall, Burj Khalifa, Dubai Fountain)
- วันที่สาม: ผจญภัยในทะเลทรายหรือสวนสนุก
- วันที่สี่: พักผ่อนริมชายหาด หรือช้อปปิ้งเพิ่มเติม
- วันสุดท้าย: ชมวิว ช้อปของฝาก และเดินทางกลับ
3. เตรียมงบประมาณให้ยืดหยุ่น
- ดูไบ มีทางเลือกหลากหลายทั้งในระดับหรูหราและราคาประหยัด ควรเตรียมงบเผื่อสำหรับกิจกรรมที่ไม่ได้อยู่ในแผน เช่น ทริปล่องเรือส่วนตัวหรือการซื้อของที่ระลึก
- ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันสำหรับผู้เดินทางที่ต้องการประสบการณ์ครบถ้วนประมาณ 150–400 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นอยู่กับสไตล์การใช้ชีวิต
4. ใช้เทคโนโลยีช่วยวางแผน
- แอปที่มีประโยชน์สำหรับนักท่องเที่ยว ได้แก่:
- Visit Dubai: ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม โปรโมชั่น
- Careem หรือ Uber: บริการรถโดยสารส่วนตัว
- The Entertainer Dubai: แอปรวมดีลส่วนลดร้านอาหารและกิจกรรม
5. รักษามารยาทในพื้นที่สาธารณะ
- แม้ดูไบจะเปิดกว้างมากในด้านวัฒนธรรม แต่ยังคงมีข้อปฏิบัติบางประการที่ควรเคารพ:
- หลีกเลี่ยงการแสดงความรักในที่สาธารณะ
- แต่งกายสุภาพ โดยเฉพาะในมัสยิดหรือสถานที่ราชการ
- ไม่ถ่ายภาพผู้คนโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะผู้หญิงชาวท้องถิ่น
ตัวเลือกเสริมสำหรับประสบการณ์วันหยุดที่หลากหลายในดูไบ
เพื่อทำให้วันหยุดของคุณในดูไบสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเดินทางคนเดียว เป็นคู่ หรือทั้งครอบครัว ต่อไปนี้คือกิจกรรมเสริมและสถานที่น่าสนใจที่สามารถเพิ่มสีสันให้กับทริปของคุณได้เป็นอย่างดี
1. สำรวจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของดูไบ
แม้ดูไบจะเป็นเมืองทันสมัย แต่ก็ยังมีเสน่ห์ของอดีตที่ควรค่าต่อการสำรวจ
- Al Fahidi Historical District (Al Bastakiya)
เดินชมอาคารโบราณแบบอาหรับ เรียนรู้วิถีชีวิตดั้งเดิม และเข้าชมนิทรรศการศิลปะและพิพิธภัณฑ์ - Dubai Museum ที่ Al Fahidi Fort
พิพิธภัณฑ์หลักของเมือง แสดงประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคก่อนการค้นพบน้ำมัน จนถึงปัจจุบัน - Sheikh Mohammed Centre for Cultural Understanding
ศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้พูดคุยกับชาวท้องถิ่น พร้อมลิ้มลองอาหารอาหรับแท้ ๆ
2. ศิลปะและเทคโนโลยีล้ำยุค
- Museum of the Future
อาคารทรงแหวนไฮเทคที่กลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของดูไบ จัดแสดงแนวคิดแห่งโลกอนาคตในด้าน AI, การแพทย์, สิ่งแวดล้อม และอวกาศ - Infinity des Lumières
นิทรรศการศิลปะแบบดิจิทัลขนาดใหญ่ที่นำเสนอผลงานศิลปินดังในรูปแบบภาพและเสียงแบบ 360 องศา - Dubai Frame
โครงสร้างรูปกรอบขนาดยักษ์สูง 150 เมตร ให้คุณมองเห็นความแตกต่างระหว่าง “ดูไบเก่า” และ “ดูไบใหม่” ในมุมเดียว
3. อาหารและรสชาติจากทั่วโลก
- อาหารอาหรับต้นตำรับ: เช่น ที่ร้าน Al Fanar, Logma หรือ Arabian Tea House
- Fine Dining บนตึกสูง: เช่น At.mosphere บน Burj Khalifa, Dinner in the Sky หรือ Ce La Vi
- อาหารนานาชาติระดับพรีเมียม: เช่น Zuma (ญี่ปุ่น), Gaia (กรีก), หรือ Tresind Studio (อินเดียสมัยใหม่)
4. ช้อปของฝากและงานฝีมือท้องถิ่น
- Souk Madinat Jumeirah: ของที่ระลึก งานฝีมือ และเสื้อผ้าสไตล์อาหรับ
- Dubai Spice Souk และ Gold Souk: ซื้อเครื่องเทศ กลิ่นหอม น้ำมัน Oud และทองคำแท้
- Global Village (เปิดเฉพาะฤดูหนาว): ตลาดนานาชาติขนาดใหญ่ รวมสินค้า อาหาร และการแสดงจากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก