Close Menu
    Facebook X (Twitter) Instagram
    thailand-export-quality
    • Home
    • ข่าวสารล่าสุด
    • ความบันเทิง
    thailand-export-quality
    ข่าวสารล่าสุด

    บ้าน ชื้น? ลองใช้ 5 วัสดุดูดความชื้นจากธรรมชาตินี้ดูสิ

    Edward BakerBy Edward BakerAugust 9, 2025No Comments2 Mins Read

    บ้าน ที่มีความชื้นสูงไม่เพียงแต่ทำให้รู้สึกอึดอัด แต่ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคภูมิแพ้ ปัญหาทางเดินหายใจ หรือการเจริญเติบโตของเชื้อรา นอกจากนี้ ความชื้นยังสามารถทำลายเฟอร์นิเจอร์ ไม้ หรือสิ่งของภายในบ้านได้ด้วย แม้ว่าในท้องตลาดจะมีเครื่องดูดความชื้นให้เลือกใช้มากมาย แต่หลายคนอาจต้องการวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัด และปลอดภัยต่อร่างกาย ดังนั้น วัสดุดูดความชื้นจากธรรมชาติ จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

    บทความนี้จะแนะนำ 5 วัสดุดูดความชื้นจากธรรมชาติที่คุณสามารถหาได้ง่าย ใช้งานสะดวก และช่วยปรับสภาพอากาศในบ้านให้แห้งสบายมากขึ้น


    1. ถ่านไม้ (Charcoal)

    คุณสมบัติและการทำงาน
    ถ่านไม้เป็นหนึ่งในวัสดุดูดความชื้นที่ใช้กันมานาน ด้วยโครงสร้างที่มีรูพรุนจำนวนมาก ทำให้สามารถดูดซับทั้งความชื้นและกลิ่นอับได้อย่างดี นอกจากนี้ยังปลอดภัยต่อการใช้งานในพื้นที่ปิด เช่น ตู้เสื้อผ้า ลิ้นชัก หรือห้องเก็บของ

    วิธีใช้งาน

    • นำถ่านไม้ใส่ในถุงผ้าหรือภาชนะโปร่ง เช่น ตะกร้าตาข่าย
    • วางในพื้นที่ที่ต้องการลดความชื้น เช่น ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ หรือใกล้หน้าต่าง
    • เปลี่ยนถ่านใหม่ทุก 1–2 เดือน เพื่อคงประสิทธิภาพการดูดซับ

    ข้อดี

    • ราคาถูก หาง่าย
    • ดูดกลิ่นได้ดีควบคู่ไปกับการลดความชื้น
    • ใช้ซ้ำได้บางส่วน โดยนำไปตากแดดเพื่อลดความชื้นที่สะสม

    2. เบกกิ้งโซดา (Baking Soda)

    คุณสมบัติและการทำงาน
    เบกกิ้งโซดาเป็นผงที่มีคุณสมบัติในการดูดซับความชื้นและกลิ่นอับได้ดี โดยเฉพาะในพื้นที่ขนาดเล็ก และเหมาะสำหรับการใช้งานในตู้เย็น ตู้เก็บอาหาร หรือห้องครัว

    วิธีใช้งาน

    • ใส่เบกกิ้งโซดาลงในถ้วยหรือภาชนะเปิด
    • วางในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
    • คนหรือเขย่าเบา ๆ เป็นครั้งคราวเพื่อกระตุ้นการดูดซับ
    • เปลี่ยนใหม่ทุก 1–2 เดือน

    ข้อดี

    • ปลอดสารเคมีอันตราย
    • ใช้งานง่ายและปลอดภัยต่ออาหาร
    • หาซื้อได้ทั่วไปในซูเปอร์มาร์เก็ต

    3. เกลือ (Salt)

    คุณสมบัติและการทำงาน
    เกลือมีคุณสมบัติในการดึงดูดความชื้นจากอากาศ จึงมักถูกใช้เป็นวิธีง่าย ๆ ในการลดความชื้นในพื้นที่เล็ก ๆ เช่น ห้องครัว ตู้เก็บของ หรือแม้แต่รถยนต์

    วิธีใช้งาน

    • ใส่เกลือลงในชามหรือถุงผ้าโปร่ง
    • วางไว้ในมุมห้อง หรือตู้เสื้อผ้า
    • เมื่อเกลือจับตัวเป็นก้อนหรือมีน้ำขัง แสดงว่าความชื้นถูกดูดซับแล้ว ควรเปลี่ยนเกลือใหม่

    ข้อดี

    • ราคาถูกและหาได้ง่าย
    • ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการใด ๆ
    • ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม

    4. ซิลิกาเจล (Silica Gel)

    คุณสมบัติและการทำงาน
    ซิลิกาเจลมักพบในซองเล็ก ๆ ที่มาพร้อมกับรองเท้า กระเป๋า หรือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันความชื้น วัสดุนี้มีประสิทธิภาพสูงในการดูดซับน้ำและความชื้นในอากาศ

    วิธีใช้งาน

    • นำซองซิลิกาเจลวางในลิ้นชัก กล่องเก็บเครื่องประดับ หรือพื้นที่ที่ต้องการป้องกันความชื้น
    • สามารถนำซิลิกาเจลไปตากแดดเพื่อฟื้นฟูความสามารถในการดูดซับ และนำกลับมาใช้ซ้ำได้

    ข้อดี

    • ขนาดเล็ก ใช้งานสะดวก
    • ดูดซับความชื้นได้เร็ว
    • นำกลับมาใช้ซ้ำได้หลายครั้ง

    5. ข้าวสาร (Rice)

    คุณสมบัติและการทำงาน
    ข้าวสารสามารถดูดซับความชื้นได้ดีในระดับหนึ่ง จึงมักถูกใช้เป็นวิธีฉุกเฉิน เช่น การซับความชื้นจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เปียก หรือป้องกันความชื้นในภาชนะปิด

    วิธีใช้งาน

    • ใส่ข้าวสารลงในถุงผ้าหรือภาชนะโปร่ง
    • วางในพื้นที่ที่ต้องการลดความชื้น เช่น ตู้เก็บของ หรือใกล้อุปกรณ์ที่ต้องการป้องกันความชื้น
    • เปลี่ยนเมื่อข้าวดูดความชื้นมากเกินไปหรือเริ่มมีกลิ่นอับ

    ข้อดี

    • หาได้ง่ายในทุกครัวเรือน
    • ปลอดภัยและไม่เป็นพิษ
    • เหมาะกับการใช้งานทั้งระยะสั้นและระยะยาวในพื้นที่เล็ก

    เคล็ดลับเพิ่มเติมในการลดความชื้นในบ้าน

    แม้ว่าวัสดุดูดความชื้นจากธรรมชาติจะช่วยได้ แต่เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ควรผสมผสานกับการปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้าน เช่น

    • เปิดหน้าต่างให้มีการระบายอากาศ
    • ใช้พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำหรือห้องครัว
    • ซ่อมแซมรอยรั่วหรือจุดที่น้ำซึมเข้าบ้าน
    • หลีกเลี่ยงการตากผ้าในบ้านหากไม่จำเป็น

    บ้านชื้น? ลองใช้ 5 วัสดุดูดความชื้นจากธรรมชาตินี้ดูสิ (ต่อ)

    4. ถ่านไม้ไผ่ – ดูดความชื้นพร้อมขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์

    ถ่านไม้ไผ่เป็นวัสดุธรรมชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องการดูดซับความชื้นได้ดี เนื่องจากโครงสร้างภายในมีรูพรุนขนาดเล็กจำนวนมาก จึงสามารถดูดความชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้พร้อมกัน วิธีใช้ก็ง่าย เพียงนำถ่านไม้ไผ่มาวางไว้ในถุงผ้าฝ้ายบางๆ แล้ววางในตู้เสื้อผ้า ห้องเก็บของ หรือมุมที่มีความชื้นสูง เมื่อใช้ไปประมาณ 1-2 เดือน ควรนำถ่านออกตากแดดเพื่อคืนประสิทธิภาพการดูดซับ

    นอกจากคุณสมบัติในการดูดความชื้น ถ่านไม้ไผ่ยังช่วยลดกลิ่นอับชื้นและกลิ่นเหม็นต่างๆ ได้ ทำให้พื้นที่ในบ้านสดชื่นมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลคุณภาพอากาศภายในบ้านควบคู่กับการลดความชื้น


    5. ดินเบา (Diatomaceous Earth) – วัสดุดูดความชื้นหลากประโยชน์

    ดินเบาเป็นผงแร่ธรรมชาติที่มีเนื้อสัมผัสเบาและประกอบด้วยรูพรุนจิ๋วจำนวนมาก จึงสามารถดูดซับความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ปัจจุบันมีการนำดินเบามาประยุกต์ใช้หลายรูปแบบ เช่น แผ่นรองวางของในห้องน้ำ แผ่นรองแก้ว หรือเสื่อดินเบาสำหรับเช็ดเท้า

    ข้อดีคือดินเบาสามารถดูดความชื้นซ้ำได้หลายครั้ง เพียงนำออกไปตากแดดหรือผึ่งลมให้แห้งก็พร้อมใช้งานต่อ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการควบคุมความชื้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ห้องน้ำหรือบริเวณซักล้าง


    เคล็ดลับเพิ่มเติมในการใช้วัสดุดูดความชื้น

    แม้ว่าวัสดุจากธรรมชาติจะปลอดภัยและช่วยลดความชื้นได้ดี แต่ควรใช้ควบคู่กับการปรับสภาพบ้านให้โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก เช่น เปิดหน้าต่างให้ลมผ่าน ใช้พัดลมดูดอากาศ หรือซ่อมแซมรอยรั่วซึม เพื่อป้องกันความชื้นไม่ให้กลับมาสะสมอีก

    นอกจากนี้ ควรตรวจสอบและเปลี่ยนวัสดุดูดความชื้นตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อคงประสิทธิภาพการใช้งาน ไม่เช่นนั้นวัสดุเหล่านี้อาจอิ่มตัวและไม่สามารถดูดซับความชื้นได้อีก

    4. ถ่านไม้ (Charcoal)

    ถ่านไม้เป็นวัสดุจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติพิเศษในการดูดซับกลิ่นและความชื้นได้ดี เนื่องจากมีโครงสร้างที่เป็นรูพรุน ทำให้สามารถดูดซับน้ำและอากาศชื้นรอบ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ่านไม้ยังช่วยลดกลิ่นอับที่เกิดจากความชื้นในบ้านได้เป็นอย่างดี

    วิธีใช้

    • นำถ่านไม้ใส่ในถุงผ้าบางหรือถุงตาข่าย
    • วางไว้ในบริเวณที่ต้องการ เช่น ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ หรือมุมห้องที่อับชื้น
    • ควรนำถ่านออกมาตากแดดทุก ๆ 1-2 เดือน เพื่อฟื้นฟูประสิทธิภาพในการดูดซับ

    ข้อดี

    • ราคาถูก หาได้ง่าย
    • ใช้ซ้ำได้หลายครั้ง
    • ช่วยกำจัดกลิ่นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์

    ข้อควรระวัง

    • อย่าใช้ถ่านที่มีสารเคมีเจือปน ควรเลือกถ่านไม้ธรรมชาติ 100%
    • หลีกเลี่ยงการวางใกล้แหล่งความร้อนสูง

    5. ซีโอไลต์ (Zeolite)

    ซีโอไลต์เป็นแร่ธรรมชาติที่มีโครงสร้างเป็นรูพรุนขนาดเล็ก สามารถดูดซับความชื้นและกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มักถูกใช้ในอุตสาหกรรม แต่ก็มีรูปแบบที่เหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้านเช่นกัน

    วิธีใช้

    • นำซีโอไลต์ใส่ในถุงผ้าหรือภาชนะที่อากาศผ่านได้
    • วางไว้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องใต้ดิน ห้องน้ำ หรือบริเวณที่ใกล้ผนังบ้าน
    • สามารถนำซีโอไลต์ไปตากแดดเพื่อฟื้นฟูการดูดซับได้

    ข้อดี

    • ดูดซับความชื้นได้รวดเร็ว
    • ใช้ซ้ำได้หลายครั้ง
    • ไม่มีสารเคมีอันตราย

    ข้อควรระวัง

    • ควรซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
    • ไม่ควรให้โดนน้ำโดยตรง เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพลดลง

    เคล็ดลับเพิ่มเติมในการลดความชื้นในบ้าน

    แม้ว่าวัสดุดูดความชื้นจากธรรมชาติจะช่วยได้มาก แต่การจัดการสภาพแวดล้อมโดยรวมก็สำคัญเช่นกัน เช่น

    • เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
    • ใช้พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำหรือห้องครัว
    • หลีกเลี่ยงการตากผ้าในพื้นที่ปิด
    • ตรวจสอบการรั่วซึมของหลังคาและผนังบ้าน
    บ้าน ชื้น? ลองใช้ 5 วัสดุดูดความชื้นจากธรรมชาตินี้ดูสิ ผลกระทบของการ อาเจียน บ่อยต่อสุขภาพและวิธีจัดการ ผลกระทบของขยะ อุตสาหกรรม ต่อสุขภาพของประชาชน พฤติกรรมแย่ ๆ ที่ทำให้เกิด ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร
    Edward Baker

    Related Posts

    ความสัมพันธ์ระหว่างการอดอาหารกับระดับ น้ำตาลในเลือด

    September 2, 2025

    อันตรายของ ความหิว โหยอย่างรุนแรงและผลกระทบต่อระบบเผาผลาญ

    September 1, 2025

    Saltimbocca alla Romana: “กระโดดเข้าปาก” ด้วย ความอร่อย

    August 30, 2025

    Comments are closed.

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.