Close Menu
    Facebook X (Twitter) Instagram
    thailand-export-quality
    • Home
    • ข่าวสารล่าสุด
    • ความบันเทิง
    • สุขภาพ
    • สูตรอาหาร
    thailand-export-quality
    ข่าวสารล่าสุด

    อาหาร ฝรั่งเศสแสนอร่อย: วิธีทำคีชลอร์เรนที่นุ่มและอร่อย

    Edward BakerBy Edward BakerOctober 24, 2025Updated:October 24, 2025No Comments2 Mins Read

    อาหาร ฝรั่งเศสเป็นที่รู้จักทั่วโลกในฐานะสัญลักษณ์ของความประณีตและความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุง หนึ่งในเมนูที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบทั้งในฝรั่งเศสและนานาชาติ คือ “คีชลอร์เรน (Quiche Lorraine)” — พายไข่และครีมที่อบจนฟูหอม เคล้ากับเบคอนและชีสอย่างลงตัว คีชลอร์เรนเป็นเมนูที่แสดงถึงความเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งของอาหารฝรั่งเศสได้อย่างชัดเจน เพราะแม้จะใช้วัตถุดิบไม่กี่อย่าง แต่ให้รสชาติที่เข้มข้นและละเมียดละไม

    ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับที่มาของคีชลอร์เรน พร้อมสูตรและขั้นตอนการทำแบบต้นตำรับที่สามารถทำได้ที่บ้าน โดยได้รสสัมผัสนุ่ม หอม และอร่อยไม่แพ้เชฟฝรั่งเศส


    ที่มาของคีชลอร์เรน

    คีชลอร์เรนมีต้นกำเนิดจากแคว้นลอร์เรน (Lorraine) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ชายแดนติดกับเยอรมนี คำว่า “Quiche” มาจากภาษาเยอรมันเก่าว่า “Kuchen” แปลว่า “เค้ก” จึงสะท้อนถึงลักษณะของอาหารจานนี้ที่คล้ายพายอบหรือเค้กคาว

    ในยุคแรก คีชลอร์เรนทำจากแป้งพาย ผสมไข่และครีมสด โดยไม่มีชีส ส่วนเบคอนถูกเพิ่มเข้ามาภายหลังเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสเค็มมัน เมื่อเมนูนี้แพร่หลายไปทั่วฝรั่งเศส จึงมีการพัฒนาให้หลากหลาย เช่น Quiche aux Légumes (คีชผัก) หรือ Quiche au Saumon (คีชปลาแซลมอน) แต่คีชลอร์เรนแบบดั้งเดิมก็ยังคงเป็นสูตรที่ได้รับความนิยมสูงสุด


    วัตถุดิบที่ต้องเตรียม

    สำหรับแป้งพาย (Pâte Brisée):

    • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
    • เนยจืดเย็น 125 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็ก)
    • เกลือ ½ ช้อนชา
    • น้ำเย็นจัด 4 ช้อนโต๊ะ

    สำหรับไส้คีช:

    • เบคอนหั่นชิ้น 150 กรัม
    • หอมใหญ่สับละเอียด ½ หัว (ไม่จำเป็นแต่ช่วยเพิ่มความหอม)
    • ไข่ไก่ 3 ฟอง
    • ครีมสด (Fresh Cream หรือ Whipping Cream) 200 มิลลิลิตร
    • นมสด 100 มิลลิลิตร
    • ชีสกรูแยร์ (Gruyère) หรือเอมเมนทาล (Emmental) ขูด 100 กรัม
    • พริกไทยดำบด ¼ ช้อนชา
    • เกลือเล็กน้อย (ระวังไม่ให้เค็มเกินเพราะเบคอนมีรสเค็มอยู่แล้ว)
    • ลูกจันทน์เทศขูด (Nutmeg) 1 หยิบมือ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมอ่อนๆ

    ขั้นตอนการทำคีชลอร์เรน

    1. เตรียมแป้งพาย

    • ในชามผสม ใส่แป้งสาลีและเกลือ คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่เนยเย็นลงไป
    • ใช้นิ้วมือหรือที่ตัดเนย (pastry cutter) สับเนยกับแป้งจนเป็นเม็ดร่วนๆ คล้ายเศษขนมปัง
    • เติมน้ำเย็นลงไปทีละช้อน แล้วใช้มือรวบให้แป้งจับตัวเป็นก้อน (อย่านวดนานเกินไปเพราะแป้งจะเหนียว)
    • ห่อแป้งด้วยพลาสติกแรป แล้วแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้แป้งเซ็ตตัว

    2. อบแป้งพาย (Blind Baking)

    • นำแป้งออกจากตู้เย็น แล้วคลึงให้ได้ความหนาประมาณ 3 มิลลิเมตร
    • วางลงในพิมพ์พายขนาด 20–23 เซนติเมตร กดขอบให้แน่นและตัดส่วนเกินออก
    • ใช้ส้อมจิ้มก้นพายหลายๆ จุดเพื่อป้องกันไม่ให้แป้งพอง
    • วางกระดาษรองอบทับแล้วใส่ลูกถั่วหรือเม็ดน้ำหนักสำหรับอบพาย
    • อบในเตาอบที่อุณหภูมิ 180°C ประมาณ 15 นาที จากนั้นนำกระดาษและลูกถั่วออก แล้วอบต่ออีก 10 นาทีจนแป้งเริ่มเหลือง

    3. เตรียมไส้คีช

    • ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่เบคอนลงไปผัดจนกรอบและมีน้ำมันออกมาเล็กน้อย จากนั้นตักขึ้นพักไว้
    • หากต้องการกลิ่นหอมอ่อนๆ สามารถผัดหอมใหญ่ลงในน้ำมันเบคอนที่เหลือได้เล็กน้อย แล้วพักไว้ให้เย็น
    • ในชามผสม ตีไข่ไก่ ครีมสด และนมสดเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยพริกไทยดำ เกลือ และลูกจันทน์เทศ
    • ใส่ชีสขูดและเบคอนที่ผัดไว้ลงในส่วนผสมไข่ คนให้เข้ากันเบาๆ

    4. ประกอบและอบคีช

    • เทไส้ที่เตรียมไว้ลงในแป้งพายที่อบไว้ก่อนหน้า เกลี่ยให้เรียบ
    • นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180°C อบประมาณ 30–35 นาที หรือจนคีชฟูและหน้าด้านบนเป็นสีเหลืองทอง
    • นำออกจากเตา พักให้เย็นลงเล็กน้อยก่อนตัดเสิร์ฟ เพื่อให้เนื้อคีชเซ็ตตัวและหั่นได้สวย

    เคล็ดลับสำหรับคีชลอร์เรนที่สมบูรณ์แบบ

    1. ใช้เนยเย็นเท่านั้น – เนยเย็นจะช่วยให้แป้งกรอบเป็นชั้นและไม่เหนียว
    2. อบแป้งพายล่วงหน้า (Blind Bake) – ขั้นตอนนี้ช่วยให้ฐานพายไม่แฉะจากส่วนผสมครีม
    3. ครีมกับนมต้องเข้ากันพอดี – หากใช้ครีมมากเกินไป คีชจะมันและเลี่ยนเกินไป แต่หากนมน้อยเกินไป คีชจะขาดความนุ่ม
    4. เลือกชีสคุณภาพดี – ชีสกรูแยร์ให้รสเค็มมันและละลายเนียน เหมาะกับคีชที่สุด
    5. พักคีชหลังอบก่อนเสิร์ฟ – การพักประมาณ 10 นาทีจะช่วยให้คีชเซ็ตตัวดีขึ้น และรสชาติกลมกล่อมมากขึ้น

    การเสิร์ฟและการจับคู่

    คีชลอร์เรนสามารถเสิร์ฟได้ทั้งร้อนและเย็น โดยนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า อาหารกลางวัน หรือเมนูเบาๆ สำหรับปิกนิก คู่กับสลัดผักสดราดน้ำสลัดบัลซามิก เพื่อเพิ่มความสดชื่น

    หากต้องการจัดเป็นเมนูฝรั่งเศสเต็มรูปแบบ สามารถจับคู่กับไวน์ขาวอย่าง Chardonnay หรือ Sauvignon Blanc ที่ให้กลิ่นหอมผลไม้และกรดอ่อนๆ ตัดกับความมันของครีมและชีสได้ดีเยี่ยม


    คุณค่าทางโภชนาการ

    คีชลอร์เรนเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงจากคาร์โบไฮเดรตในแป้งและไขมันจากครีมและชีส แต่ก็มีโปรตีนคุณภาพดีจากไข่และเบคอน หากต้องการทำให้เมนูนี้สุขภาพดียิ่งขึ้น สามารถปรับสูตรโดยใช้ครีมไขมันต่ำ หรือเพิ่มผักโขม เห็ด หรือบร็อกโคลีลงไปในไส้ เพื่อเพิ่มไฟเบอร์และวิตามิน

    การดัดแปลงคีชลอร์เรนในสไตล์ต่างๆ

    แม้ว่าคีชลอร์เรนดั้งเดิมจะประกอบด้วยเบคอน ครีม และชีสเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป เชฟและแม่ครัวทั่วโลกได้ปรับสูตรให้หลากหลายขึ้น ทั้งในแง่ของรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมการกินของแต่ละประเทศ ซึ่งคุณสามารถนำแนวคิดเหล่านี้มาปรับใช้ในครัวได้เช่นกัน

    1. คีชลอร์เรนแบบผักรวม (Vegetable Quiche Lorraine)
    เพิ่มผักสด เช่น ผักโขม เห็ด หอมหัวใหญ่ หรือมะเขือเทศเชอร์รี่ เพื่อเพิ่มสีสันและสารอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเนื้อสัตว์ในอาหารประจำวัน แต่ยังคงความหอมมันของไข่และชีส

    2. คีชลอร์เรนแบบปลาแซลมอน (Salmon Quiche Lorraine)
    แทนเบคอนด้วยปลาแซลมอนรมควัน เพิ่มกลิ่นหอมเฉพาะตัวของปลาและความมันที่เข้ากันดีกับครีมสด เมนูนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสายสุขภาพและผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเล

    3. คีชลอร์เรนแบบมังสวิรัติ (Vegetarian Lorraine)
    ตัดส่วนผสมจากสัตว์ออกทั้งหมด แล้วใช้ครีมถั่วเหลือง ชีสมังสวิรัติ และผักสดหลากชนิดเป็นส่วนประกอบหลัก วิธีนี้ช่วยลดคอเลสเตอรอลและเพิ่มไฟเบอร์ในอาหาร

    4. คีชลอร์เรนขนาดมินิ (Mini Quiche Lorraine)
    เหมาะสำหรับจัดเลี้ยงหรือเป็นอาหารว่างในงานปาร์ตี้ ใช้พิมพ์ทาร์ตขนาดเล็กและลดเวลาอบให้เหลือประมาณ 15–20 นาที เมนูนี้สะดวก พกพาง่าย และดูหรูหราในทุกโอกาส


    เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อคีชที่สมบูรณ์แบบ

    1. เลือกพิมพ์อบที่เหมาะสม
    พิมพ์พายโลหะจะกระจายความร้อนได้ดี ทำให้แป้งกรอบทั่วถึง ส่วนพิมพ์เซรามิกเหมาะสำหรับการเสิร์ฟตรงจากเตา เพราะเก็บความร้อนได้นาน

    2. อย่าใส่ส่วนผสมไส้มากเกินไป
    ควรเติมส่วนผสมไข่และครีมลงในแป้งพายเพียง ¾ ของความสูงพิมพ์ เพราะระหว่างอบ คีชจะฟูขึ้นเล็กน้อย หากใส่มากเกินไปอาจล้นออกมา

    3. ปล่อยให้เย็นก่อนตัดเสิร์ฟ
    เมื่อคีชสุกใหม่ๆ เนื้อในยังร้อนและเหลวอยู่ ควรรอให้เย็นลงอย่างน้อย 10 นาที เพื่อให้เนื้อคีชเซ็ตตัวและคงรูปสวยเมื่อหั่น

    4. เก็บรักษาได้หลายวัน
    คีชลอร์เรนสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2–3 วัน เพียงอุ่นในเตาอบหรือไมโครเวฟก่อนเสิร์ฟ ก็ยังคงรสชาติอร่อยเหมือนเดิม หากต้องการเก็บนานกว่านั้น สามารถแช่แข็งได้ โดยห่อด้วยพลาสติกและฟอยล์ให้แน่น


    คู่เคียงที่เหมาะกับคีชลอร์เรน

    การเสิร์ฟคีชลอร์เรนจะอร่อยยิ่งขึ้นเมื่อจับคู่กับเครื่องเคียงที่เหมาะสม เพื่อสร้างมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบตามแบบฉบับฝรั่งเศส

    • สลัดผักสด: ผักกาดร็อกเก็ต มะเขือเทศเชอร์รี่ และน้ำสลัดไวน์แดง เป็นตัวเลือกที่ช่วยตัดความมันของคีชได้ดี
    • ซุปหัวหอมฝรั่งเศส (Soupe à l’oignon): ความหวานของหัวหอมเข้ากับรสครีมของคีชอย่างลงตัว
    • ไวน์ขาวแห้ง (Dry White Wine): เช่น Chardonnay หรือ Pinot Blanc จะช่วยดึงรสชีสและครีมให้หอมละมุนยิ่งขึ้น
    • ขนมปังฝรั่งเศส (Baguette): เพิ่มสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน เหมาะกับการเสิร์ฟเป็นมื้อกลางวันเบาๆ

    ความหมายเชิงวัฒนธรรมของคีชลอร์เรน

    คีชลอร์เรนไม่ได้เป็นเพียงเมนูอาหารคาวทั่วไป แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความอบอุ่นในบ้านและการใช้เวลาร่วมกันของครอบครัว ในฝรั่งเศส คีชมักถูกเสิร์ฟในมื้อกลางวันของวันอาทิตย์ ร่วมกับไวน์และผักสด เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนได้พักผ่อนและพูดคุยกัน

    ความนิยมของคีชยังสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ของอาหารฝรั่งเศส ที่สามารถผสมผสานวัตถุดิบพื้นฐานให้กลายเป็นอาหารระดับกูร์เมต์ได้อย่างลงตัว นี่คือสิ่งที่ทำให้อาหารฝรั่งเศสเป็นมากกว่าการกิน — แต่มันคือ “ศิลปะแห่งรสชาติ” ที่มีชีวิต


    วิธีดัดแปลงให้เข้ากับครัวบ้านเรา

    หากคุณต้องการทำคีชลอร์เรนโดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายในครัวไทย ก็สามารถปรับสูตรได้ดังนี้

    • ใช้ แฮมหรือเบคอนไทย แทนเบคอนนำเข้า
    • ใช้ ชีสมอสซาเรลลา หรือ เชดดาร์ชีส แทนชีสฝรั่งเศส
    • ใช้ ครีมเทียมชนิดเหลว หรือ นมข้นจืด แทนครีมสด (แต่จะได้รสเบากว่า)
    • หากไม่มีเตาอบ สามารถใช้หม้ออบลมหรือหม้อทอดไร้น้ำมันได้เช่นกัน โดยอบที่อุณหภูมิ 170°C ประมาณ 30 นาที

    ถึงแม้จะไม่ใช่วัตถุดิบดั้งเดิมทั้งหมด แต่ด้วยเทคนิคการอบที่ถูกต้องและการปรับรสชาติให้พอดี คุณก็สามารถได้คีชที่อร่อยไม่แพ้ต้นตำรับ


    สรุปส่งท้าย

    คีชลอร์เรนเป็นหนึ่งในเมนูที่สะท้อนความคลาสสิกของอาหารฝรั่งเศสได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งในแง่ของรสชาติ ความกลมกล่อม และความเรียบง่ายที่แฝงด้วยความประณีต ทุกชิ้นพายคือการผสมผสานระหว่างความกรอบของแป้ง ความนุ่มของไข่ครีม และความเค็มมันของเบคอนและชีส ซึ่งสร้างความสมดุลที่ลงตัวในทุกคำ

    ไม่ว่าคุณจะทำคีชลอร์เรนเพื่อรับประทานเอง หรือเสิร์ฟให้ครอบครัวและแขกคนพิเศษ เมนูนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความอบอุ่นและความสุขในทุกมื้ออาหาร

    การได้อบคีชลอร์เรนด้วยมือของตัวเอง เปรียบเสมือนการได้สัมผัสจิตวิญญาณของอาหารฝรั่งเศส ที่ไม่เพียงเน้นรสชาติเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับ “ความรู้สึก” ที่เกิดขึ้นระหว่างการทำและการแบ่งปันอาหารบนโต๊ะ นี่แหละคือเสน่ห์แท้จริงของ คีชลอร์เรน — พายฝรั่งเศสแสนอร่อยที่เต็มไปด้วยหัวใจของความอบอุ่นในทุกคำ.

    Edward Baker

    Related Posts

    Saltimbocca alla Romana: “กระโดดเข้าปาก” ด้วย ความอร่อย

    August 30, 2025

    บ้าน ชื้น? ลองใช้ 5 วัสดุดูดความชื้นจากธรรมชาตินี้ดูสิ

    August 9, 2025

    ผลกระทบของภาวะขาดสารอาหารต่อ ระบบ ภูมิคุ้มกันของเด็ก

    July 26, 2025

    Comments are closed.

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.