นอร์เวย์เป็นหนึ่งในประเทศที่เหมาะสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถยนต์มากที่สุดในโลก เส้นทาง ด้วยภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งฟยอร์ดขนาดมหึมา ภูเขาสูงชัน น้ำตกนับร้อย และหมู่บ้านเล็กๆ ที่แฝงตัวอยู่ในหุบเขา การขับรถเองทำให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ได้อย่างอิสระ เลือกหยุดพักตามใจ ชมวิวที่สวยงามในทุกมุม และออกนอกเส้นทางหลักเพื่อค้นหาสถานที่ลับที่ไม่ค่อยมีใครไปถึง
อย่างไรก็ตาม การขับรถในนอร์เวย์ก็มีความท้าทาย เช่น สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ถนนภูเขาที่คดเคี้ยว และกฎจราจรที่แตกต่างจากหลายประเทศ บทความนี้จึงรวบรวมทั้งเคล็ดลับสำคัญและเส้นทาง Road Trip ที่สวยงามที่สุด เพื่อช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่นและน่าประทับใจ
เคล็ดลับการขับรถในนอร์เวย์

1. กฎจราจรที่ควรรู้
- ขับรถด้านขวาและแซงทางซ้าย
- ความเร็วจำกัด:
- เขตเมือง: 30–50 กม./ชม.
- ถนนนอกเมือง: 70–80 กม./ชม.
- มอเตอร์เวย์: 90–110 กม./ชม.
- ทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัย รวมถึงผู้โดยสารที่เบาะหลัง
- ใช้ไฟหน้าตลอดเวลา แม้ในตอนกลางวัน
2. สภาพอากาศและฤดูกาล
- ฤดูร้อน (มิถุนายน–สิงหาคม): เหมาะที่สุดสำหรับ road trip ถนนเปิดครบเกือบทั้งหมด
- ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–ตุลาคม): ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม แต่บางเส้นทางภูเขาอาจเริ่มปิด
- ฤดูหนาว (พฤศจิกายน–มีนาคม): ขับรถยาก ถนนลื่น ต้องใช้ยางฤดูหนาว
- ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน–พฤษภาคม): น้ำตกไหลแรงจากหิมะที่ละลาย แต่บางเส้นทางยังปิดอยู่
3. ค่าใช้จ่ายและระบบทางด่วน
- นอร์เวย์มีระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ (AutoPASS) กล้องจะถ่ายป้ายทะเบียนแล้วส่งบิลให้ภายหลัง
- ราคาน้ำมันค่อนข้างสูง ควรเตรียมงบประมาณล่วงหน้า
- สถานีบริการน้ำมันมีทั่วไปในเมือง แต่ในพื้นที่ห่างไกลควรเติมเต็มถังก่อนออกเดินทาง
4. การข้ามฟยอร์ดและอุโมงค์
- บางเส้นทางต้องขึ้นเรือเฟอร์รีเพื่อข้ามฟยอร์ด ค่าโดยสารประมาณ 100–200 NOK ต่อรถยนต์
- นอร์เวย์มีอุโมงค์ยาวมากกว่า 1,000 แห่ง รวมถึง Laerdal Tunnel ที่ยาวที่สุดในโลกกว่า 24 กิโลเมตร
5. ความปลอดภัย
- ระวังสัตว์ป่า เช่น กวางหรือกวางมูสที่อาจข้ามถนน
- เวลาขับบนภูเขาให้ใช้เกียร์ต่ำเพื่อควบคุมความเร็ว
- หากมีหิมะตกหนัก ควรเลื่อนการเดินทางและรอจนกว่าถนนปลอดภัย
เส้นทาง Road Trip ที่ดีที่สุดในนอร์เวย์
1. Atlantic Ocean Road
- ระยะทาง: 8 กิโลเมตร
- ไฮไลต์: สะพานคดเคี้ยวที่ทอดผ่านทะเลเชื่อมเกาะเล็กๆ หลายเกาะ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในถนนที่สวยที่สุดในโลก
- เคล็ดลับ: ควรขับในวันที่อากาศแจ่มใสเพื่อชมวิวทะเล และในช่วงพระอาทิตย์ตกจะได้ภาพที่งดงามที่สุด
2. Trollstigen (บันไดโทรลล์)
- ระยะทาง: 106 กิโลเมตร (รวมเส้นทางสู่ Geiranger)
- ไฮไลต์: ถนนบนภูเขาที่มีโค้งหักศอก 11 โค้ง ล้อมรอบด้วยน้ำตกและหน้าผาสูง
- จุดชมวิว: แพลตฟอร์มกระจกที่ยื่นออกไปเหนือหุบเขา ให้มุมมองสุดตระการตา
3. Geirangerfjord Route
- ไฮไลต์: หนึ่งในฟยอร์ดที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลกยูเนสโก น้ำตก Seven Sisters และหมู่บ้าน Geiranger ที่งดงาม
- เคล็ดลับ: ควรนั่งเรือชมฟยอร์ดเพิ่มเติมเพื่อสัมผัสความงามจากมุมมองอื่น
4. Sognefjellet National Tourist Route
- ระยะทาง: 108 กิโลเมตร
- ไฮไลต์: ถนนที่สูงที่สุดในนอร์เวย์ ตัดผ่านภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปีและธารน้ำแข็ง
- แนะนำ: เปิดเฉพาะช่วงปลายพฤษภาคมถึงกันยายนเท่านั้น
5. Lofoten Islands Road Trip
- ไฮไลต์: ถนน E10 ที่พาคุณผ่านหมู่บ้านชาวประมงสีสด ธารน้ำแข็ง และชายหาดที่สวยราวภาพวาด
- เคล็ดลับ: ใช้เวลาอย่างน้อย 3–4 วันเพื่อสำรวจเกาะอย่างเต็มที่ และอย่าพลาดชมแสงเหนือในฤดูหนาว
6. Hardangerfjord Route
- ไฮไลต์: ฟยอร์ดที่มีชื่อเสียงเรื่องสวนผลไม้และน้ำตกขนาดใหญ่ เช่น Vøringsfossen
- เหมาะสำหรับการเดินทางช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิเมื่อดอกไม้บานเต็มสองข้างทาง
การเตรียมตัวสำหรับ Road Trip
- เช่ารถล่วงหน้า โดยเฉพาะในฤดูท่องเที่ยว
- ตรวจสอบสภาพถนนและการปิดเส้นทาง ผ่านเว็บไซต์การคมนาคมของนอร์เวย์
- พกอาหารและน้ำดื่ม หากเดินทางในพื้นที่ห่างไกล
- ดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ เนื่องจากสัญญาณอินเทอร์เน็ตอาจอ่อนในหุบเขา
- เผื่อเวลา เพราะการขับรถในนอร์เวย์ไม่ใช่เรื่องรีบ แต่คือการเดินทางเพื่อดื่มด่ำกับวิว
ตัวอย่าง Itinerary Road Trip 10 วันในนอร์เวย์
การเดินทาง 10 วันเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสทั้งฟยอร์ด ถนนภูเขา และหมู่บ้านริมทะเล โดยเริ่มจากออสโลแล้ววนกลับ
วัน 1–2: ออสโล → Geilo → Hardangerfjord
- ขับออกจากออสโล มุ่งหน้าไป Geilo เมืองที่โอบล้อมด้วยภูเขา
- แวะชม Hardangervidda National Park และ Vøringsfossen น้ำตกที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในนอร์เวย์
- พักค้างคืนใกล้ Hardangerfjord
วัน 3–4: Hardangerfjord → Bergen
- ขับต่อสู่ Bergen เมืองท่าอันมีเสน่ห์ที่ขึ้นชื่อเรื่อง Bryggen Wharf
- ใช้เวลาเดินชมเมือง ชิมอาหารทะเลสด และนั่งกระเช้าไปยังยอดเขา Fløyen
- พักค้างคืนที่ Bergen
วัน 5–6: Bergen → Sognefjord → Sognefjellet
- เดินทางสู่ Sognefjord ฟยอร์ดที่ยาวและลึกที่สุดในนอร์เวย์
- นั่งเรือชมฟยอร์ดเพื่อเห็นความยิ่งใหญ่จากมุมมองน้ำ
- จากนั้นขับผ่านเส้นทาง Sognefjellet National Tourist Route ที่ตัดผ่านภูเขาหิมะ
- พักค้างคืนใน Lom หรือบริเวณรอบๆ
วัน 7: Lom → Geirangerfjord
- ขับต่อไปยัง Geirangerfjord ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
- แวะชมจุดชมวิว Ørnesvingen และ Dalsnibba
- นั่งเรือชมฟยอร์ดเพื่อชม Seven Sisters Waterfall
- พักค้างคืนใน Geiranger
วัน 8: Geiranger → Trollstigen → Ålesund
- ขับผ่านถนน Trollstigen ที่เต็มไปด้วยโค้งหักศอกและน้ำตก
- เดินทางต่อสู่เมืองชายฝั่ง Ålesund ที่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมอาร์ตนูโว
- พักค้างคืนที่ Ålesund
วัน 9: Ålesund → Atlantic Ocean Road → Trondheim
- ขับไปตาม Atlantic Ocean Road ถนนทะเลที่มีสะพานคดเคี้ยว
- เดินทางต่อไปยัง Trondheim เมืองมหาวิทยาลัยที่มีบรรยากาศคึกคัก
- พักค้างคืนที่ Trondheim
วัน 10: Trondheim → ออสโล (เครื่องบิน/รถไฟ)
- หากมีเวลา สามารถขับกลับออสโล แต่เพื่อความสะดวกควรบินหรือนั่งรถไฟ
- ปิดท้ายทริปด้วยการเดินเล่นในเมืองออสโล
งบประมาณโดยประมาณสำหรับ Road Trip 10 วัน
- ค่าเช่ารถ
- รถยนต์ทั่วไป: 800–1,200 NOK/วัน → 8,000–12,000 NOK ต่อ 10 วัน
- รถแคมป์: 1,500–2,500 NOK/วัน → 15,000–25,000 NOK ต่อ 10 วัน
- ค่าน้ำมัน
- ค่าเฉลี่ย 20 NOK/ลิตร
- ขับ 2,000 กม. ใช้น้ำมันประมาณ 160 ลิตร → 3,200 NOK
- ที่พัก
- โฮสเทล/เกสต์เฮาส์: 500–800 NOK/คืน → 5,000–8,000 NOK
- โรงแรมระดับกลาง: 1,000–1,500 NOK/คืน → 10,000–15,000 NOK
- ค่าอาหาร
- ซื้อซูเปอร์มาร์เก็ตและทำเอง: 200–300 NOK/วัน → 2,000–3,000 NOK
- ทานที่ร้านอาหารวันละ 1 มื้อ: เพิ่มอีก 400–600 NOK/วัน
- ค่าเรือเฟอร์รีและค่าผ่านทาง
- 2,000–3,000 NOK ตลอดทริป
👉 รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด:
- ประหยัด (โฮสเทล + ทำอาหารเอง): 20,000–25,000 NOK ต่อคน
- สบาย (โรงแรม + ร้านอาหารบางมื้อ): 30,000–40,000 NOK ต่อคน
เคล็ดลับปิดท้าย
- วางแผนการขับไม่เกิน 4–5 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อมีเวลาแวะชมวิว
- พกเสื้อกันฝนและกันหนาว แม้จะเป็นฤดูร้อน
- พักในหมู่บ้านเล็กๆ ระหว่างทาง เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตแบบนอร์เวย์แท้ๆ
- หากเลือกเช่ารถแคมป์ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่พัก และได้อิสระเต็มที่ในการหยุดพัก
บทสรุป
Road trip ในนอร์เวย์คือการเดินทางที่ผสมผสานความงดงามทางธรรมชาติและอิสระอย่างแท้จริง ทุกเส้นทางเต็มไปด้วยความประทับใจ ตั้งแต่ฟยอร์ดที่ยิ่งใหญ่ ถนนบนภูเขาที่ท้าทาย ไปจนถึงสะพานกลางทะเลที่งดงามเหนือคำบรรยาย การขับรถเองทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และมอบความยืดหยุ่นในการสร้างประสบการณ์เฉพาะตัว
ไม่ว่าคุณจะมีเวลาเพียงไม่กี่วันหรือหลายสัปดาห์ นอร์เวย์จะทำให้ทุกการเดินทางด้วยรถยนต์กลายเป็นเรื่องราวที่น่าจดจำและยากจะลืมเลือน